“ผมอยากให้คนไทยเชื่อมั่นและภูมิใจในศักยภาพของคนไทยที่สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้” ภิญโญ พานิชเกษม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วาย.เอส.เอส. (ประเทศไทย)จำกัด ย้ำถึงความมุ่งมั่นตั้งใจตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายระบบกันสะเทือน(โช้คอัพ)รถมอเตอร์ไซค์และรถกระบะ รวมถึงรถที่ใช้ในสนามแข่งกว่า 84 แบรนด์ ครอบคลุมรุ่นรถมากกว่า 2,500 รุ่น และชิ้นส่วนอุปกรณ์หลากหลายกว่า 5,000 รายการ ภายใต้แบรนด์ YSS และ YSS AUTO ทั้งในไทยและต่างประเทศนับตั้งแต่เริ่มต้นเส้นทางการทำงานปี 2526 ภิญโญได้สั่งสมประสบการณ์ในธุรกิจจำหน่ายชิ้นส่วนอะไหล่และอุปกรณ์เสริมยานยนต์ในตำแหน่งผู้จัดการแผนกการตลาด บริษัท ธนเสริม จำกัด “...ผมทำงานเป็นลูกจ้างที่ธนเสริมอยู่ 9 ปี รุ่นพี่ในธุรกิจอะไหล่มอเตอร์ไซค์ก็ชวนออกมาร่วมหุ้นใน บริษัท ไทยเอเซียคอมเมอร์เชียล ตั้งแต่ปี 2536 ซึ่งภายหลังมีการควบรวมทั้งผู้ผลิตและผู้จำหน่ายเป็นแทคสยามคอร์ปในปี 2549 ผมเป็นคนกลางช่วยบริหารและวางระบบ 1 ปี จึงมาทุ่มเต็มตัวให้ TSK” รางวัลแห่งความเพียรพยายามของโช้คอัพไทยที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีให้ได้มาตรฐานสากลและมอบสมรรถนะช่วงล่างเต็มพิกัดเป็นใบเบิกทางสู่เจ้าตลาด high performance ครองสนามแข่งไทยและอาเซียน พร้อมส่งออกตอบสนองดีมานด์นักบิดมากกว่า 30 ประเทศ ขึ้นแท่นแชมป์โลกในปี 2562
มือบิดวายเอสเอส "VENEMAN" กด Best Lab คว้าดับเบิ้ลโพเดียม J.GARCIA โชว์ฟอร์มสุดโหด เสียบยับเเซงกระจาย WorldSSP300
YSS อวดโฉมรุ่น Japan Edition หน้าตาแบบนี้ สีแบบนี้โดนใจมั้ยล่ะ?
ต้อนรับตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นเข้าชม YSS DC!
เผยโฉมครั้งแรกในโลก "YSS X-SPORT" สำหรับรถ PPV และ PICKUP ด้วยเทคโนโลยีจากรายการระดับโลก Dakar Rally
ซีอีโอวัย 58 ปียังคงระลึกถึงช่วงเวลาแห่งการสร้างความเปลี่ยนแปลง ทั้งการปรับโครงสร้างธุรกิจจากหุ้นส่วนเดิมที่เป็นชาวไต้หวันกลายเป็นของคนไทย 100% พร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัท TSK เป็น YSS รวมถึงการปรับกลยุทธ์ธุรกิจฝ่าวิกฤตค่าเงินในปี 2540 ด้วยการรุกตลาดต่างประเทศให้มีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 30% ในขณะนั้น ขณะเดียวกันภิญโญยังต้องพยายามนำพาบริษัทให้สามารถก้าวข้ามจากตลาดอะไหล่เทียมสู่ผลิตภัณฑ์กลุ่ม high performance ให้สำเร็จ “อะไหล่มอเตอร์ไซค์มีหลายตัว แต่เราเลือกโช้คอัพเพราะแข่งขันด้านประสิทธิภาพการดีไซน์และสร้างแบรนด์ได้ โดยเปลี่ยนจากตลาดอะไหล่ทดแทนเป็น high performance...จนมาพบกับ Harry จึงชวนเขาหุ้น 10% ทั้งในไทยและบริษัท R&D ที่ยุโรป...” ภิญโญกล่าวถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในการจับมือกับพันธมิตรยุโรป Harrie Essens ผู้เชี่ยวชาญด้านโช้คอัพจากเนเธอร์แลนด์ และทีมวิจัยพัฒนาที่มีประสบการณ์มากมายจากรายการแข่งระดับโลก ภิญโญยังเดินหน้าขยายน่านน้ำทางธุรกิจด้วยการใช้คุณภาพมาตรฐานระดับสากล เช่น ISO/TS 16949โดย Tuv Rheinland จากประเทศเยอรมนี และมาตรฐานคุณภาพผลิตภัณฑ์ ABE โดยสถาบัน Kraftfahrt-Bundesamt (KBA) จากประเทศเยอรมนี สำหรับโช้คในกลุ่มรถสกูตเตอร์และรถมอเตอร์ไซค์แบรนด์แรกในทวีปเอเชีย รวมถึงพัฒนาโช้คอัพแก๊สในระบบดับเบิลทิวส์สำหรับมอเตอร์ไซค์เป็นรายแรกของโลกในชื่อรุ่น HYBRID กุญแจสำคัญของ YSS คือการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์จากที่ต้องใช้เทคนิคปรับแต่งประสิทธิภาพให้เหมาะกับรถ ซึ่งมีความยุ่งยากซับซ้อนเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปใช้งานได้ง่าย ส่งผลให้บริษัทรายใหญ่ของทุกประเทศพร้อมใจกันเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับ YSS ไม่ว่าจะป็น เยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศส อังกฤษ และสเปน เป็นต้น ปัจจุบันบริษัทครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ high performance ทั้งประเทศไทยและอาเซียนพร้อมส่งออกยังตลาดเอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรป แอฟริกา และอเมริกาใต้ โดยมีตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลกพร้อมศูนย์ service center ในประเทศและ 11 ศูนย์บริการในต่างประเทศ สำหรับผลประกอบการในปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยรายได้จำนวน 824.45 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 102.27 ล้านบาท เพิ่มสมรรถนะรุกตลาดโลก “เราพัฒนาสินค้าใหม่ตลอดเวลา เรามี R&D ตั้งแต่ออกแบบรูปร่าง ปั้นโมเดลออกแบบด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ประกอบเสร็จและสามารถทดลองได้ รวมถึงการนำรถเข้ามาทดสอบบนถนนเหมือนลงสนามแข่ง...เรามีทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกไตรมาส และการพัฒนาตามรถรุ่นใหม่ที่ออกมา โดยสามารถออกทุกสัปดาห์ตามการเปิดตัวของรถรุ่นใหม่” ภิญโญกล่าว “ดีมานด์แต่ละแห่งแตกต่างกัน ส่วนใหญ่ในอาเซียนเป็นรถเล็กและสกูตเตอร์ ในอดีตรอเสียและเปลี่ยน แต่ปัจจุบันเขาเปลี่ยนของติดรถออกทั้งที่ยังไม่เสีย เพื่อใช้ YSS เพราะเราพิสูจน์ให้เขาเห็นว่า จ่ายเงินให้เราแล้วคุ้มค่า ไม่ใช่แค่สวย แต่เพราะ performance ส่วนยุโรปแบ่งเป็นตลาดสกูตเตอร์และบิ๊กไบค์ซึ่งเปลี่ยนเมื่อเสียหรือถึงระยะเวลา เนื่องจากใช้งานน้อยและถนนทางเรียบกว่าไทย” ภิญโญกล่าวถึงโอกาสสร้างการเติบโตที่สะท้อนชัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซียซึ่งเป็นตลาดมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน รองลงมา ได้แก่ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ เมียนมา และมาเลเซีย ทั้งยังวางแผนรุกกลุ่มประเทศสหรัฐอเมริกา ตลาดออฟโรดขนาดใหญ่ที่สุดของโลก “ในอนาคตสัดส่วนการส่งออกน่าจะถึง 70% และการเติบโตในอาเซียนเพิ่มเป็นเท่าตัวได้ไม่ยาก...เรายังสนใจประเทศญี่ปุ่น อเมริกาและออสเตรเลีย โดยเราวางแผนสร้างศูนย์วิจัยR&D ใน 3 ประเทศนี้...” ขณะเดียวกันภิญโญยังลงทุนขยายไลน์การผลิตสปริงให้สอดคล้องกับโช้คอัพที่ได้รับพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดต้นทุนการผลิตและระยะเวลาการปรับแต่งผลิตภัณฑ์ให้สามารถวางตลาดได้รวดเร็วทันความต้องการ “เรายังไม่มีนโยบายผลิตสปริงเพื่อขายรายอื่น โดยเน้นออกแบบสปริงใช้กับโช้คของเราเป็นหลัก...” ภิญโญยังวางกลยุทธ์เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เจาะกลุ่มผู้ใช้รถกระบะ โดยร่วมกับทีมวิจัยค้นคว้าทวีปยุโรปพัฒนาโช้คอัพสำหรับรถกระบะ 4 x 2 และ 4 x 4 สำหรับก้าวต่อไปของ YSS ภิญโญให้ความสนใจในโอกาสสร้างการเติบโตผ่านการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย “การเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะทำให้เราพัฒนาได้ง่ายและมีคนรับรองความโปร่งใส รวมถึงการเป็นมหาชนทำให้เราจับมือกับพันธมิตรได้ดีกว่า แต่ต้องแลกกับการเปิดเผยข้อมูลแผนธุรกิจ คู่แข่งรู้เรา แต่เราไม่รู้เขา ซึ่งกลยุทธ์บางอย่างเราบอกไม่ได้” เครดิต : พรพรรณ ปัญญาภิรมย์ ภาพ : จันทร์กลาง กันทอง อ้างอิง : http://www.forbesthailand.com/entrepreneurs-detail.php?did=2778“การสร้างแบรนด์อย่างแรกเกิดจากการพิสูจน์ตัวเอง โดยเฉพาะในสนามแข่งที่เราคว้าชัยชนะหลายรายการทั่วโลก สองคือเรามีผลิตภัณฑ์หลากหลายครอบคลุมมากที่สุดในโลกถึง 5,000 รายการ...”
“สัดส่วนรายได้ส่งออกประมาณ 50% เราเป็นเจ้าตลาดอาเซียน ทั้งมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เมียนมา และสิงคโปร์”
CORPORATE EDITOR FORBES THAILAND
มือบิดวายเอสเอส "VENEMAN" กด Best Lab คว้าดับเบิ้ลโพเดียม J.GARCIA โชว์ฟอร์มสุดโหด เสียบยับเเซงกระจาย WorldSSP300
YSS อวดโฉมรุ่น Japan Edition หน้าตาแบบนี้ สีแบบนี้โดนใจมั้ยล่ะ?
ต้อนรับตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นเข้าชม YSS DC!
เผยโฉมครั้งแรกในโลก "YSS X-SPORT" สำหรับรถ PPV และ PICKUP ด้วยเทคโนโลยีจากรายการระดับโลก Dakar Rally